บิชเคก เมืองหลวงที่มีครบทุกสิ่ง สำหรับคนทุกวัย

พอก้าวย่างเข้าถึงเมืองหลวงบิชเคก ภาพเมืองสีเขียวลอยมาโดดเด่น จาก ต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกเป็นแนวสองข้างทางตลอดถนนหนทางที่ขับผ่าน ทำให้เมืองนี้ดูแล้วน่าอยู่มากจริงๆ ถนนหลายสายมีภาพภูเขายอดหิมะปกคลุมตลอดปีเป็นฉากหลัง ซึ่งน้อยมากที่เมืองหลวงในที่อื่นๆจะมีภาพเช่นนี้

สวนสาธารณะ เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมือง มีมากมายหลายแห่ง บางสวนก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่าง เช่น Oak Park ที่เอางานประติมากรรม นับ 1,000 ตัว ที่สื่อทั้งงานศิลป์ และทั้งให้แง่คิดต่างๆในการใช้ชีวิต และที่ขาดไม่ได้ คือ แปลงดอกไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะกุหลาบ ซึ่งทางประเทศแถบเอเชียกลางนี่ ปลูกได้ดีมาก ดอกใหญ่โต เทียบเท่าขนาดฝ่ามือที่กางออก กลีบ ใบ กิ่งก้าน และลำต้นหนาและแข็งแรง 
ต้นไม้ในสวนก็มีหลากหลายชนิด โดยเฉพาะต้นโอ๊ค และต้นสนชนิดต่างๆ บรรยากาศการเดินชมสวนยามเช้านี้ สุขสดชื่น อย่างบอกไม่ถูก

ที่ชอบมากอีกอย่างหนึ่ง คือ สวนสาธารณะบางแห่ง มีการจัดมุมนิทรรศการงานศิลปะภาพวาด ซึ่งมีไว้จำหน่ายด้วย เป็นการเปิดพื้นที่และโอกาสให้เหล่าศิลปินท้องถิ่นได้แสดงผลงานและหารายได้ไปด้วยในตัว มีภาพสวยๆมากมายละลานตาไปหมด โดยเฉพาะภาพวิวทิวทัศน์ของประเทศที่สวยงามแห่งนี้ และภาพที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของชนเผ่าเร่ร่อนของชาวเคอร์กีซสถานในอดีต 

ทางเดินจากสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง นำไปสู่ตัว พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ (National Museum) ก้าวย่างแรกที่เปิดประตูเข้าไปในตัวพิพิธภัณฑ์ ก็ถึงกับแปลกใจและประทับใจในการออกแบบตกแต่งภายในที่ดูกว้างใหญ่ โอ่โถง แอร์เย็นฉ่ำสบาย การจัดแสดงวัตถุโบราณและสิ่งล้ำค่าต่างๆ ทำได้ดีเหลือเกิน ไล่ลำดับประวัติศาสตร์ตามความเก่าแก่ในแต่ละยุคสมัย ไปในแต่ละชั้น ตั้งแต่ยุคหิน ไปจนถึงยุคปัจจุบัน รวมทั้งยังได้เห็นถึงวิถีชีวิตของผู้คนในแต่ละยุคสมัยอย่างโดยละเอียด 

เดินออกมาจากพิพิธภัณฑ์ จะพบกับลานจัตุรัสกว้าง ที่เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของเมืองหลวงบิชเคกแห่งนี้ จัตุรัสหลักแห่งนี้ มีชื่อว่า จัตุรัสอลาตู (Ala-Too Square) เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ท่านมานัส (Manas Monument) นั่งอยู่บนหลังม้า ซึ่งถือว่าเป็นวีรบุรุษในตำนาน ผู้สร้างชาติเคอร์กีซสถานในช่วงยุคศตวรรษ ที่ 10 แม้แต่สนามบินหลักในเมืองหลวง ก็ใช้ชื่อของท่าน (Manas International Airport) แต่เดิมทีในยุคสมัยโซเวียต ตรงนี้เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ของท่านเลนิน แต่ในปี ค.ศ. 2003 ก็ถูกย้ายไปอยู่โซนด้านหลังอาคารพิพิธภัณฑ์ฯแทน 

ถัดออกไปจะเห็น ทหารรักษาความปลอดภัย 2 คน  ยืนนิ่งอยู่ด้านล่างของเสาธงชาติเคอร์กีซสถาน สูงประมาณ 40 เมตร ผืนธงชาติ บนพื้นสีแดงสด ที่มีสัญลักษณ์รูปกระโจมล้อมรอบด้วยเปลวรัศมี 40 แฉก ซึ่งเป็นตัวแทนของ 40 ชนเผ่าพื้นเมืองที่ประกอบรวมกันเป็นประเทศชาติเคอร์กีซสถานแห่งนี้ ปลิวโบกสบัดตามแรงลม ให้ความรู้สึกถึงความเป็นหนึ่งเดียวของชนชาตินี้

ในตัวเมืองหลวงยังมีศาสนสถานที่น่าสนใจมากอึกแห่งหนึ่ง ที่ต้องแนะนำให้ไปเยี่ยมชมกัน นั่นคือ มัสยิดหลักแห่งเมืองบิชเคก (Bishkek Grand Mosque) เมื่อไปถึงด้านหน้าเห็นภาพความอลังการภายนอกของตัวอาคารสถาปัตยกรรม ก็ตกตะลึงพอสมควร ที่นี่สร้างในรูปแบบสไตล์คล้ายกับ มัสยิดสีฟ้า (Blue Mosque) ในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ความใหญ่โตมโหฬารทำให้จุคนได้โดยรวมกว่า 30,000 คน การก่อสร้างได้รับเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาลตุรกี เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างสองประเทศ  เมื่อก้าวเข้าไปภายในตัวมัสยิด ที่กว้างใหญ่โอ่โถง สวยงามมาก ก็รู้สึกได้ถึงความศรัทธาที่มั่นคงของชาวมุสลิมที่มีต่อศาสนาอิสลามของตน วันที่เราไปเยือน ได้เห็นเด็กนักเรียนกลุ่มใหญ่ นั่งล้อมวงอยู่บนพรมสีฟ้า ฟังครูอิหม่ามพูดบรรยายเกี่ยวกับหลักคำสอนต่างๆ ซึ่งน่าจะเป็นการทัศนศึกษานอกสถานที่ ที่มีความหมายอย่างยิ่งต่อจิตวิญญาณของเด็กๆชาวมุสลิม ที่จะทำให้เข้าใจในหลักศาสนาอย่างแท้จริง

นักท่องเที่ยวขาช้อปปิ้ง ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้ของฝากติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนที่บ้าน เพราะมีร้านขายของที่ระลึกมากมายหลายร้าน ตามแหล่งท่องเที่ยว และที่ Osh Bazar ตลาดประจำเมืองบิชเคก ซึ่งเดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังแบบละเอียดในอีกตอนหนึ่ง

สำหรับคนที่ชอบร้านกาแฟเก๋ๆ เมืองหลวงบิชเคกแห่งนี้ ก็มีให้เลือกไปนั่งตากแอร์เย็นๆ จิบกาแฟหอมๆ เพื่อพักเบรคระหว่างการเดินทางได้หลายแห่ง หลายร้าน

มาถึงตรงนี้ ต้องบอกว่า เมืองหลวงบิชเคก มีทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ทุกคนทุกวัยต้องการจริงๆ  ถ้ามีโอกาสแล้วไม่มาเที่ยวที่นี่ พลาดไปแล้วหล่ะ 

มิถุนายน 2565

#Bishkek #บิชเคก 
#Krygyzstan #CentraAsia 
#ทัวร์เคอร์กีซสถาน  #ทัวร์เอเชียกลาง  
#โกลบอลฮอลิเดย์ 
(ผู้เชี่ยวชาญในการเดินทางที่แตกต่างมากว่า 20 ปี) 

Top